การวิเคราะห์ความจำเป็นและการกำหนดเบี้ยประกันภัย
การประกันภัยและเศรษฐกิจ
การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศเป็นผลมาจากการมีอยู่และการใช้ทุนที่มีตัวตน และทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ที่ธุรกิจจำนวนมากในระบบเป็นเจ้าของจากการสะสมมา เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว โอกาสของงานใหม่ๆ จะถูกสร้างขึ้น หากเศรษฐกิจไม่เติบโตจะเป็นผลให้มีตำแหน่งงานไม่เพียงพอ อันจะส่งผลให้เกิดการว่างงาน หากธุรกิจล้มลงลูกจ้างจะสูญเสียงานและส่งผลให้เศรษฐกิจต้องเสียหายด้วย นั่นคือเหตุผลที่ทุนทั้ง 2 ประเภทต้องมีการประกัน เพื่อเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการปกปักษ์รักษา และบริหารความเสี่ยง แม้การประกันจะไม่สามารถปกป้องชีวิต ทรัพย์สินทางกายภาพ แต่สามารถปกป้องและรับประกันต่อผลร้ายแรงทางการเงินที่จะตามมาหลังการสูญเสีย การประกันภัยจึงเป็น “สัญญาชนิดหนึ่งซึ่งฝ่ายหนึ่งตกลงที่จะชดใช้ให้อีกฝ่ายหนึ่งในความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเป็นผลมาจากภัยที่ระบุไว้ในสัญญา ทั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการจ่ายเงินทั้งก้อนในคราวเดียว หรือจ่ายเงินเป็นระยะๆให้แก่ฝ่ายแรก โดยการมีประกันภัยความเสี่ยงถูกถ่ายโอนจากผู้เอาประกันสู่บริษัทผู้รับประกัน ความเสี่ยงที่กล่าวนี้คือ ความเสี่ยงแท้จริง ซึ่งเป็นความเสี่ยงเพียงแบบเดียวที่สามารถรับประกันได้ ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อการได้รับความคุ้มครองจากผู้รับประกันภัยตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา”
