คนรวยเอาเงินส่วนใหญ่ลงทุน-เอาเงินที่เหลือนำไปใช้

คนรวยเอาเงินส่วนใหญ่ลงทุน เอาเงินที่เหลือนำไปใช้

เงินในชีวิตของเรานั้นสามารถแบ่งได้ง่ายๆ เป็นสองประเภท นั่นก็คือสินทรัพย์กับหนี้สิน

หลายๆ คนยังไม่เข้าใจข้อนี้ เพราะยังคงทยอยสะสมสิ่งของฟุ่มเฟือยต่างๆ โดยเข้าใจว่ามันคือสินทรัพย์ ทั้งที่จริงๆ แล้วสิ่งของเหล่านั้นไม่ได้ผลิตความมั่งคั่งเพิ่มให้เราเลยสักนิด สิ่งที่จะเป็นสินทรัพย์ได้ต้องเป็นสิ่งที่มีความสามารถในการสร้างเงินให้เรา และเราควรที่จะโฟกัสกับการสะสมสินทรัพย์

แม้ว่าเราจะหาเงินมาได้หนึ่งล้านบาท แต่หากเราใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้ รายได้ที่มากมายก็ไม่มึความหมายอะไร ในทางตรงกันข้าม

หากเราหาเงินมาได้หนึ่งหมื่นบาท แต่รู้จักจัดสรรเงิน เก็บออมเดือนละสองพัน ก็ถือได้ว่าเรามีเงินได้สุทธิสูงกว่าคนที่ได้หนึ่งล้านบาทแล้ว ด้วยเหตุนี้การรู้จักบริหารจัดสรรเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

คนที่รวยนั้นจะให้ความสำคัญกับการลงทุนให้เงินงอกเงยมากๆ เขาจะจัดสรรเงินอย่างเป็นระเบียบชัดเจนว่าก้อนไหนเอาไปลงทุน

ในขณะเดียวกัน หลายๆ คนยังคงถือคติใช้จ่ายก่อน เหลือเท่าไรค่อยไปลงทุน ความคิดนี้อันตรายเพราะเป็นการยากที่เราจะควบคุมการใช้จ่ายเงินของเรา เสี่ยงต่อการ ‘มีเยอะใช้จ่ายเยอะ’ จนทำให้ไม่มีเงินเก็บ ไม่ต้องเสียใจไปหากค้นเจอว่าเรามีข้อบกพร่องบางอย่าง เพราะทุกคนย่อมมีข้อบกพร่องกันทั้งนั้น

ทางที่ดีคือเราควรจะหาทางแก้ไขข้อบกพร่องนั้นด้วยการเรียนรู้พัฒนาตัวเองให้มากขึ้น การมัวแต่โทษปี่โทษกลองไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เพราะนอกจากจะไม่ได้พัฒนาตัวเองแล้ว ยังทำให้เรากลายเป็นคนทัศนคติไม่ดี และอาจทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่ดีกับเราได้

การอยากซื้อของอะไรสักอย่างนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เราสามารถเปลี่ยนความอยากนี้มาเป็นตัวกระตุ้นในการมุ่งหน้าสร้างความมั่งคั่งได้ เพราะเมื่อเราตั้งคำถามว่าเราจะสามารถได้เงินก้อนนี้มาอย่างไร นั่นหมายความว่าเราจะต้องหาคำตอบให้ได้ และถ้าเรามีความคิดจิตใจที่แข็งแกร่งมุ่งมั่นมากพอ เราก็จะคิดวางแผนหาทางสร้างเงินก้อนนั้น

อ.ฉัตรชัย​ ผาสุขธรรม​ / เขียนบทความ

#tiivarietytalk #ทีไอไอทอล์ค​ #ประกันภัย #ประกันชีวิต #ประกันวินาศภัย

แบ่งปันบทความนี้